AEC ประเทศพม่า
การเปิดประเทศของพม่าช่วงที่ผ่านมา
ทำให้นักลงทุนต่างประเทศหลายแห่งสนใจ ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) ญี่ปุ่น
รวมถึงกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน เนื่องจากพม่ายังมีทรัพยากรธรรมชาติจานวนมาก
ทั้งแหล่งปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ป่าไม้ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรม
ส่งผลให้ประเทศคู่แข่งผลิตปาล์มน้ำมัน หรือ ยางพารา ของไทย เช่น มาเลเซีย
อินโดนีเซียนางนฤมล ขรภูมิ
ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขณะนี้ ทางการพม่าได้เปิดสัมปทานให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปเช่าพื้นที่ปลูกพืชทางการเกษตรได้นับล้านไร่
ในบริเวณเขตพื้นที่ย่านตะนาวศรี หรือพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศพม่า
โดยทางการพม่าได้มีการแบ่งเขตโซนการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดอย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้
ได้มีการประกาศให้ผู้สนใจสามารถเข้าไปติดต่อแจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่เพื่อเข้าไปปลูกพืชเกษตรตามโซนที่กำหนด
จากการเข้าไปสารวจก่อนหน้านี้พบว่ามีพื้นที่
ที่เหมาะสาหรับปลูกพืชทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก
ที่ทางการพม่าเปิดให้เอกชนจากต่างชาติเข้าไปเช่าพื้นที่ แต่พบว่ายังมีรายละเอียด
ขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆ ที่ทางการพม่าได้กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ อาทิเช่น
จะต้องมีการถ่ายทอดความรู้ด้านการเพาะปลูก การกรีดยาง
การทายางแผ่นให้กับชาวพม่าที่สนใจเป็นต้น
รวมถึงระเบียบการนำสินค้าที่ผลิตได้ออกนอกประเทศที่ทางการพม่าค่อนข้างจะมีกฎเกณฑ์ที่ละเอียดมาก
จำเป็นที่จะต้องศึกษาในรายละเอียด เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา แต่สิ่งที่จูงใจสาคัญ
คือ แรงงานที่มีราคาถูก รวมถึงอัตราค่าเช่าที่ดินที่พม่ากาหนดให้เช่าได้ในระยะยาว 10-30
ปี ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จูงใจ
ดังนั้น
เพื่อให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้าใจในกฎเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ทางหอการค้าจังหวัดระนอง
จึงได้ประสานไปยังหอการค้า จ.เกาะสอง
เพื่อร่วมหารือนอกรอบเพื่อพูดคุยในรายละเอียดที่ยังเป็นที่สงสัย ก่อนที่จะเอกชนจาก
ระนองจะตัดสินใจเข้าไปเช่าพื้นที่ปลูกพืชเกษตรในฝั่งประเทศพม่า
ซึ่งพบว่ามีพื้นที่ที่เหมาะสม อยู่ติดแนวพรมแดนด้าน จ.ระนองกว่าแสนไร่
ซึ่งหากสามารถดาเนินการในเงื่อนไข
และกฎระเบียบได้ก็จะส่งผลดีต่อการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มของเกษตรกรที่สนใจจากประเทศไทยที่จะเข้าไปปลูกปาล์มน้ำมันขณะนี้
มีความเคลื่อนไหวจากประเทศคู่แข่งอุตสาหกรรมปาล์มของไทย
คือ ประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาเช่าสัมปทานพื้นที่ปลูกปาล์มในประเทศพม่าในย่านเขตตะนาวศรี
ที่มีพรมแดนติดกับจังหวัดระนองถึงจังหวัดเกาะสองแล้วไม่ต่ากว่า 200,000 ไร่
เพราะนโยบายและการสนับสนุนของรัฐบาลมาเลเซีย
ที่ต้องการขยายพื้นที่การปลูกปาล์มออกนอกประเทศ
เนื่องจากพื้นที่ในประเทศที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป ประกอบกับประเทศพม่ากาลังเปิดกว้างให้นักลงทุนจากต่างชาติเข้าไปเช่าพื้นที่ในประเทศพม่าเพื่อปลูกพืชเกษตรได้
โดยเฉพาะปาล์มน้ามัน และยางพารา ก่อนหน้านี้ ภาคเอกชนไทย
รวมถึงตนเองก็ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศพม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อดูสภาพพื้นที่
ที่รัฐบาลทหารพม่าประกาศให้สัมปทานระยะยาวในการปลูกพืชด้านการเกษตรโดยเฉพาะปาล์มน้ามัน
และยางพาราในย่านเขตตะนาวศรีนับล้านไร่ ซึ่งโดยสภาพพื้นที่มีความน่าสนใจมาก
เพราะมีสภาพภูมิศาสตร์ ทาเลที่ตั้งที่เหมาะแก่การปลูกปาล์ม
หรือยางพาราเป็นอย่างมาก ซึ่งมีเอกชนไทย ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน แต่ที่ผ่านมา
ยังไม่กล้าเข้าไปเนื่องจากหวั่นเกรงเรื่องนโยบายของรัฐบาลทหารพม่าที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง
หากเข้าไปลงทุนมากๆ โดยไม่มีหลักประกันถือเป็นการเสี่ยงเกินไปที่จะเข้าไป
แต่จากที่ราคาสินค้าทางการเกษตรขยับพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งผู้ที่เข้าไปก่อนหน้านี้
ไม่มีปัญหาแต่ประการใด ทาให้ขณะนี้
ภาคเอกชนและนักลงทุนจากไทยต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะการหาพื้นที่ปลูกพืชเกษตรอย่างปาล์มน้ามันที่มีราคาสูงอยู่ในขณะนี้
รวมถึงยางพารา