เตรียการมพัฒนาเยาวชนไทยสู่อาเซียน

เตรียการมพัฒนาเยาวชนไทยสู่อาเซียน

สำนักการศึกษากรุงเทพมหานครจัดโครงการเสวนา “มิติการบริหารจัดการคุณภาพการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน” ให้ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด กทม. ทั้งหมดรวม 437 โรงเรียน เตรียมพร้อมรับกระแส ” อาเซียน” เพราะการพัฒนาเยาวชนไทยถือเป็นอีกเสาประชมคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community: ASCC) เพื่อให้เยาวชนเดินหน้าสู่อาเซียนในทิศทางเดียวกัน

โครงการเสวนา “มิติการบริหารจัดการคุณภาพการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน” มีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ กริช วัชรศิริธรรม รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร ร.ท.อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร อธิบดีกรมอาเซียน ผศ.ดร.วลัย อิศรางกูร ณ อยุธยา ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และตะวันเทวอักษร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อักษรเจริญทัศน์ จำกัด

กริช วัชรศิริธรรม รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร แสดงความเห็นว่า สำนักการศึกษาและโรงเรียนทั้งหมดมีการสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด โดยนโยบายหลักที่ต้องเร่งทาในขณะนี้คือการให้ครูออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมในการเข้าสู่อาเซียนขณะเดียวกันก็มีการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เพื่อให้สถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมบูรณาการอาเซียนได้อย่างคล่องตัว

ร.ท.อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร อธิบดีกรมอาเซียน เสนอมุมมองว่า ข่าวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอาเซียนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสื่อเน้นการนำเสนอข่าวเพียงเสาหลักเสาเสียว คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในขณะที่ยังมีเสาสำคัญอีก 2 เสาแทบไม่มีใครพูดถึง คือ เสาการเมืองและความมั่นคงอาเซียน กับเสาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งการนำเสนอข่าวในด้านAEC เพียงด้านเดียว จะทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าอาเซียนเน้นแต่เรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งในความจริงแล้ว การเตรียมคน เตรียมเยาวชน เป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ยิ่งหยํอนไปกว่ากัน

การพัฒนาให้เด็กรักการอ่าน มีความกระตือรือร๎นที่จะใฝุหาความรู้ด้วยตนเอง และมีทักษะในการทำงานเป็นทีมเป็นเรื่องสำคัญ ในขณะนี้การเรียนการสอนที่เกิดขึ้น ในโรงเรียน เป็นการปูอนความรู้จากครูให้แก่เด็ก เมื่อเด็ก ๆ โตขึ้นเขาจะคาดหวังว่าข้อมูล ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่คนอื่น ๆ จะต้องหยิบยื่นให้ ทำให้เด็กไม่ขวนขวายไม่มีความพยามยามที่จะหาข้อมูลเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ สถิติการอ่านหนังสือของเด็กไทยที่น้อยกว่าเด็กสิงคโปร์มาก และเมื่อความรู้มากมายมีอยู่ในหนังสือ เด็กไทย ก็จะเสียโอกาสนั้นไป นอกจากนี้ควรต้องฝึกทักษะการทำงานเป็นทีมด้วย เช่นกันทั้งการพัฒนาทักษะ ภาษาเพื่อการสื่อสาร และสามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับประเทศอื่น ๆ ที่มีแนวคิดและกรอบความคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งเราจำเป็นต้องปรับตัวให้ได้

ผศ.ดร.วลัย อิศรางกูร ณ อยุธยา จากครุศาสตร์ จุฬาฯ เสนอแนวทางในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพภายใต้กรอบแนวคิด ในการบริหารจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า สถานศึกษาจะควรเน้นพัฒนาผ่าน 2 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ การพัฒนาศักยภาพ ของเยาวชน ซึ่งสถานศึกษาควรเริ่มจากการสอนภาษาอังกฤษ และภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมด้านภาษา การสื่อสาร จากนั้นจึงต่อยอดด้วยการสอน และการฝึกทักษะการทำงาน

ต้องพยายามสอดแทรกคุณลักษณะของการทำงานที่ดี ผ่านกระบวนการเรียนการสอน และการพัฒนาความเข้มแข็งของสถานศึกษา ควรให้สถานศึกษาจัดการศึกษาในเรื่องของประชาคมอาเซียนอย่างมีคุณภาพอบรมภาษาอังกฤษให้ครู สอนประวัติศาสตร์ในระดับและมุมมองที่กว้างขึ้น โดยครอบคลุมไปถึงประวัติศาสตร์ในกลุ่มประเทศสมาชิกพร้อมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อเปิดโลกทัศน์แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา

ตะวัน เทวอักษร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อักษรเจริญทัศน์ จำกัด ในฐานะตัวแทนภาคเอกชน เสนอความเห็นว่า ให้สถานศึกษาเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมรอบด้าน นอกเหนือจากความรู้พื้นฐาน ที่ผู้เรียนจะได้รับในห้องเรียน การจัดการเรียนการสอนควรเน้นการพัฒนาทักษะชีวิต ให้ผู้เรียนสามารถใช้ชีวิตและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พัฒนาทักษะการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความใฝุรู้ พร้อมมีทักษะการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดแก้ปัญหา

เพิ่มการพัฒนาทักษะการใช้ข้อมูลและไอที เพื่อให้ผู้เรียนสามารถไปใช้ในการหาข้อมูล และประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุดท้ายคือ การสร้างทัศนคติ รักการเรียนรู้ให้ผู้เรียน ซึ่งความรักในการเรียนรู้นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยสร้างให้เยาวชนมีความใฝุเรียนใฝุรู้ตลอดเวลา และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้ในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งนับเป็นการเตรียมความพร้อมเยาวชนสู่ ประชาคมอาเซียน และโลกแห่งศตวรรษ ที่ 21 อย่างมีคุณภาพ

โจทย์ที่สถานศึกษาและคนการศึกษาทั้งหมด ต้องทาและรับผิดชอบร่วมกันคือ การพัฒนาเยาวชนให้มีศักยภาพ เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสามารถในการแข่งขัน ไม่เพียงแค่การพุ่งเป้า สู่การเปิด ประชาคมอาเซียนเท่านั้น แต่การเตรียม “คน” ของไทย จะต้องมีนโยบายและแนวทางที่ชัดเจน เพื่อให้ทุกภาคส่วนเห็นเป้าหมายและเดินไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

ที่มา :  คม ชัด ลึก