กูรู แนะปิดจุดอ่อนแฟรนไชส์ วิเคราะห์ตลาดเจาะลึกลูกค้า เสริมแกร่ง SMEs
นายวิทวัส รุ่งเรืองผล หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ควรเตรียมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) โดยนาทฤษฎีกลยุทธ์การแข่งขันมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของตนเองนอกจากนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยยังต้องนาทฤษฎีการตลาด
และการวิเคราะห์มาใช้สำหรับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ได้แก่ 1. การแข่งขันด้านต้นทุน มุ่งสินค้าคุณภาพแต่ต้นทุนต่ำ ไม่ใช้กลยุทธ์การตัดราคามาสู้คู่แข่ง 2. ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายการตลาดที่ชัดเจน เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และต้องพัฒนาหรือต่อยอดสินค้าเดิมด้วย และ 3. การสร้างความแตกต่างอย่างมีรูปแบบของสินค้าผลิตภัณฑ์ หรือบริการนั้นๆ ในตลาดที่แข่งขันสูง ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาแนวคิดสินค้าหรือบริการออกมาใหม่ ที่แตกต่างไปจากรายเดิมในตลาดได้ จากการเข้าสู่AECในปี 2558 แม้จะมีผู้เล่นจำนวนมากในตลาดเดียวกัน แต่การสร้างความแตกต่าง จะสามารถคว้าโอกาสกำลังซื้อผู้บริโภคในอาเซียนได้
ทั้งนี้ โอกาสสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะอุปสรรคด้านภาษีนำเข้าระหว่างอาเซียนจะลดลงและหมดไป ทำให้สามารถขยายการส่งออกไปยังตลาดภูมิภาคนี้ได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่มีคุณภาพและราคาถูก ซึ่งจากการที่ตลาด 10 ประเทศรวมเป็นหนึ่งเดียว ยังจะทำให้ตลาดใหญ่ขึ้น มีการผลิตมากขึ้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง หรือมีต้นทุนต่ำ ทำให้สินค้าที่ผลิตมีความสามารถในการแข่งขันได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ปัจจัยการลงทุนในอาเซียนก็มีความเป็นเสรีมากขึ้น ทำให้ขยายฐานการผลิตบางส่วนหรือทั้งหมดไปในอาเซียนได้สะดวกกว่าที่ผ่านมา ส่วนปัญหาอุปสรรคต่างๆ นั้น ผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังทั้งสินค้าจากอาเซียนที่จะเข้ามาขายแข่งสินค้าไทย อาจทำให้เสียตลาดหากคุณภาพด้อย ต้นทุนสูง รวมทั้งมีคู่แข่งอาเซียนที่อาจใช้ประโยชน์จากตลาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ต้นทุนของคู่แข่งก็อาจต่ำลงด้วย หรือคู่แข่งจากอาเซียนอาจย้ายฐานผลิตมาแข่งในไทย เป็นต้น
ที่มา : โพสต์ทูเดย์