แดนอิเหนา ดันกฎหมายหนุนรายย่อย เปิดทาง SMES เข้าถึงตลาด-เงินทุน
กระทรวงสหกรณ์และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของรัฐบาลอินโดนีเซีย ประกาศเตรียมผลักดันร่างกฎหมายโครงการบ่มเพาะธุรกิจSMEsทั้งภาคการผลิต การค้า และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตลอดจนถึงพัฒนา
ศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรับการเข้าสู่ความเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ภายใต้ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งต้องผ่านการลงนามรับรองจากประธานาธิบดีจะเปิดทางให้ธุรกิจรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาด แหล่งเงินทุน และเทคโนโลยีที่จำเป็นตลอดจนถึงคาแนะนำในการดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น ภาครัฐเชื่อว่าร่างระเบียบจะส่งผลบวกให้กับแผนพัฒนาSMEsในประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นก่อนอินโดนีเซียจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งตลาดการค้าเสรีอาเซียน
บัดยาร์โต ลิงโกวิโยโน ตัวแทนหอการค้าอินโดนีเซีย กล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้ มีกำหนดเปิดเผยรายละเอียดภายในเดือนนี้ จะเป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศ เพื่อสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งร่างดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนสินค้าด้านเทคโนโลยีเพื่อการส่งออกในประเทศได้ดีขึ้น
นอกจากความร่วมมือในภาคของธุรกิจแล้ว รัฐบาลยังจับมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศ 4 แห่ง เพื่อจัดตั้งโครงการ บ่มเพาะความเป็นเจ้าของธุรกิจสำหรับนักศึกษา
รายงานระบุว่า มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีหน้าที่รับผิดชอบพัฒนาSMEsในแต่ละอุตสาหกรรมSMEsที่แตกต่างกันไป เช่น สถาบันเทคโนโลยีบันดุง เน้นพัฒนาด้านภาคการผลิต ขณะที่สถาบันการเกษตรโบกอร์ มุ่งส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมการเกษตร โดยมหาวิทยาลัยบราวิจายา มีแผนด้านธุรกิจการเกษตร และสถาบันเทคโนโลยีซาราบายา มีแผนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เดินหน้าออกกฎหมาย ตลอดจนถึงจัดตั้งหน่วยงานบ่มเพาะSMEs เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจรายย่อยในประเทศอย่างต่อเนื่องภายหลังนักลงทุนจำนวนมากทั้งจากสหรัฐ ญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ หันมาให้ความสนใจลงทุนในภูมิภาคมากขึ้น
ที่มา : โพสต์ทูเดย์
